• Explore Your Spiritual Health.

    Onsen in Town ผิวเปล่งปลั่ง ลดอาการปวดเมื่อย ต้านหวัด แช่น้ำแร่ร้อนสิ...ดี



    เป็นที่ทราบกันดีว่าคุณประโยชน์ของน้ำแร่ร้อน มีสรรพคุณช่วยเรื่องผิวพรรณ ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และปัญหาสุขภาพด้านไขข้อ แร่ธาตุต่างๆ ยังช่วยบรรเทาโรคตามแต่ชนิด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย แต่ด้วยภูมิอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา การแช่น้ำแร่ร้อนจึงไม่นิยมเท่ากับประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นแช่น้ำแร่ร้อน หรือ ออนเซ็น ในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นร้อน ฝน หรือหนาว ใบไม้ร่วงโรย หรือผลิบาน ยิ่งช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหนาวจากละอองสายฝนโปรย ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ส่วนใดของประเทศ ลองหาวันว่างพาร่างไปแช่น้ำแร่ร้อน นอกจากจะช่วยผ่อนปรนร่างกายจากความเครียด สรรพคุณของน้ำแร่ร้อนยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น บำรุงผิวพรรณ และป้องกันโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเวลา

    น้ำแร่ร้อนคืออะไร?

    น้ำแร่เป็นน้ำตามธรรมชาติที่เกิดจากการซึมผ่านของชั้นดินและหิน ทำให้เกิดการสะสมของแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โซเดียม แคลเซียม ฟลูออไรด์ ฯลฯ ฉะนั้น น้ำแร่ร้อนจึงเป็นน้ำแร่ที่ประทุขึ้นมาจากใต้ดินสู่พื้นผิวโลกและยังคงมีอุณภูมิสูงตั้งแต่46 - 100 องศาเป็นต้นไป คนไทยเรียกน้ำแร่ร้อนว่า 'น้ำพุร้อน' (Natural Hot Spring) ตามวิธีการเกิด หรือเรียกว่า ‘ออนเซ็น’ ตามความคุ้นเคยจากวัฒนธรรมการแช่ที่แพร่หลายของประเทศญี่ปุ่น

    แม้ประเทศไทยจะไม่ได้มีจุดน้ำแร่ร้อนมากมายเท่าแดนอาทิตย์อุทัย แต่ก็สามารถหาได้เกือบทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ หรือแม้แต่กรุงเทพมหานคร ตอนนี้ก็มีสถานเสริมความงามหลายเจ้าสนใจหันมาเปิดน้ำแร่ร้อนให้แช่ผ่อนคลายกัน

    อาบแล้วดี อาบแล้วเปล่งปลั่ง
    มนุษย์หลายเชื้อชาติมีความเชื่อแต่โบราณแล้วว่าการแช่น้ำแร่ร้อน เป็นศาสตร์แห่งการบำบัดและรักษาอย่างหนึ่ง ซึ่งความเชื่อเหล่านั้น สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันมีการน้ำแร่ร้อนมาช่วยบรรเทาอาการ และช่วยรักษาควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ก่อนจะไปทราบพิกัดแช่น้ำแร่ร้อน มาดูกันสิว่า น้ำแร่ร้อนที่นิยมแช่กันทั่วโลกนั่น มีคุณประโยชน์ได้บ้าง
    • บรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ
    • ช่วยการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ลดความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ
    • ขยายหลอดเลือดทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น
    • ขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนังและรูขุมขน ทำให้ผิวหนังสะอาดบำรุงผิวพรรณให้สดใส
    • ช่วยการดูดซึมแลกเปลี่ยนออกซิเจนและกลูโคสระหว่างเส้นเลือดฝอยและเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
    • ฯลฯ

    แหล่งแช่น้ำแร่ร้อนทั่วไทย

    ประเทศไทยมีแหล่งแช่น้ำแร่ร้อนหลายแห่ง อยู่ใกล้แห่งไหนแวะเวียนไปลองพิกัดนั้น

    1. Let’s Relax Onsen & Spa Thonglor, กรุงเทพมหานคร


    •  

    สปาคุณภาพในกรุงเทพมหานคร ที่เปิดให้บริการบ่อออนเซนมากถึง 5 บ่อ โดยมีไฮไลท์เป็นน้ำแร่ร้อนจากเมือง Gero Onsen ประเทศญี่ปุ่น แหล่งแช่น้ำแร่ร้อนอันดับต้นของแดนอาทิตย์อุทัย นอกจากรูปแบบและการบริการที่ถอดแบบจากญี่ปุ่นทุกประการ ที่นี่ยังมีห้องหินเกลือภูเขาไฟ ห้องไอน้ำ ซาวน์น่า และห้องเสื่อทาทามิ ให้คุณพักผ่อนร่างกายได้ตลอดทั้งวัน

    Cost: 600 บาท ตลอดวัน
    Link: https://www.facebook.com/letsrelaxonsenthonglor

    2. Yunomori Onsen & Spa Pattaya, ชลบุรี
     
    แม้ไม่ใช่สาขาแรก แต่ก็เป็นสาขาใหญ่และครบเครื่องที่สุดจนเราอดแนะนำไม่ได้  Yunomori เป็นแบรนด์ออนเซ็นสัญชาติไทยที่ส่งตรงน้ำแร่ร้อนจากจังหวัดระนอง หนึ่งแหล่งน้ำแร่มีชื่อของประเทศ ความพิเศษของสาขาพัทยา คือ จำลองการบรรยากาศเรียวกังญี่ปุ่น มีชุดยูกาตะให้สวมใส่เดินเล่น พร้อมคาเฟ่เล็กๆ ให้คุณพักผ่อนหย่อนใจ ที่สำคัญไม่จำต้องเปลือยกายหมด สาขานี้ยังมีบริการสปา ควบคู่กับการแช่น้ำแร่ร้อน เพื่อการผ่อนคลายทั้งภายในภายนอก ครบสูตร
     
    Cost: 450 บาท ตลอดวัน ไม่รวมทรีตเมนต์สปา

     

    3. PAÑPURI Wellness, กรุงเทพมหานคร
     


    สปาออนเซ็นคุณภาพระดับพรีเมี่ยมกลางกรุง ที่มีดีมากกว่าน้ำแร่ร้อนส่งตรงจากแหล่งน้ำแร่มีชื่อทั่วญี่ปุ่น เปิดบริการทั้งบ่อเดี่ยวส่วนตัว และบ่อรวมยาวติดต่อกันถึง 5 บ่อ พร้อมทั้งบ่อโซดา บ่อน้ำเย็น และบ่อเจ็ท (Vitality Pool) ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตภายในร่างกายให้ดีขึ้น นอกจากคุณภาพของน้ำแร่ร้อนที่ชวนร้องอู้หู้แล้ว ที่นี่ยังให้บริการทรีตเมนต์และสปาชั้นเลิศจากปัญญ์ปุริ แบรนด์สปาไทยคุณภาพคับแก้วที่เลื่องลือมากในหมู่ชาวไทยและต่างชาติ ใครที่ปวดเมื่อยตามร่างกายแบบหนักๆ ต้องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและความเครียดขึง แนะนำให้ลอง Signature จากปัญญ์ปุริ เวลเนส ประกอบไปด้วย การแช่ออนเซ็น 30 นาที ด้วยน้ำแร่จากเมืองคุซัทสึ (Kusatsu) 1 ใน 3 ออนเซ็นที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ต่อด้วย 90-minutes PAÑPURI Signature Massage ทรีตเมนท์ 90 นาที นวดผ่อนคลาย แก้อาการนอนไม่หลับ ความเครียด ความเหนื่อยล้า และมลภาวะ


    Cost: แช่ออนเซ็นเริ่มต้นที่ 700 บาท / คน ส่วนราคาทรีตเมนต์แล้วแต่เลือก
    Link: www.panpuri.com/wellness

    4. Onsen at Moncham, เชียงใหม่
     


    ใครที่กำลังมองหาสถานที่สงบเงียบไว้พักผ่อน หลีกหนีจากความวุ่นวายทั้งปวง แนะนำให้เช็คอินยัง Onsen @ Moncham ที่พักใหม่ในเขตม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่งานสถาปัตยกรรมการตกแต่ง และบรรยากาศการที่ราวกับพักผ่อนยังเรียวกังมีชื่อ ณ แดนอาทิตย์อุทัย ตัวอาคาร โครงสร้างภายใน ภายนอก ได้รับการออกแบบโดยศิลปินแห่งชาติ อาจารย์กฤษฎา โรจนกร สถาปนิกผู้บูรณะและปรับปรุงอาคารเก่าของบ้านพระอาทิตย์ และสถาบันเกอเธ่ ฯลฯ


    ห้องพักทุกประเภทสามารถใช้บริการบ่อออนเซ็นได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม บ่อน้ำแร่ร้อนแบ่งแยกเป็น ชาย-หญิง มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบเหมือนออนเซ็นต้นตำรับ น้ำแร่ของที่นี่เป็นน้ำแร่ร้อนจากภูเขาแหล่งเดียวกับน้ำดื่มออร่าใช้นำบรรจุดื่ม ฉะนั้น มั่นใจได้เลยเรื่องคุณภาพ

    Cost: ลูกค้าที่พักเข้าใช้บริการฟรี นักท่องเที่ยวทั่วไป เสียค่าบริการ 500 บาท / คน
    Link: www.onsenmoncham.com


    5. บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน, ลำปาง

    แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมสูงทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง มีลักษณะเป็นบ่อเล็กๆ 9 บ่อ ตั้งรวมกันอยู่บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ท่ามกลางโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ กิจกรรมยอดฮิตของบ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน คือ การต้มไข่ออนเซน ด้วยอุณหภูมิน้ำพุร้อนเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส ไข่ที่ได้จึงมีลักษณะเฉพาะ ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า มีกลิ่นกำมะถันกรุ่นๆ นิดๆ อีกหนึ่งกิจกรรมที่ฮอตฮิตไม่แพ้ คือ การแช่น้ำแร่ร้อน ซึ่งทางอุทยานทำเป็นโซนแยกจัดเตรียมไว้ให้แบบสุขลักษณะ มีทั้งบ่อเดี่ยวและบ่อรวม ไม่จำเป็นโป้เปือยหมด สามารถสวมผ้าถุงหรือชุดว่ายน้ำได้ตามใจ หลังจากเสร็จกิจกรรม จะเดินเที่ยวชมธรรมชาติในละแวก หรือลองใช้บริเวณนวดแผนไทย ก็ไม่เลว
    Cost: ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน 40 บาท 
               บ่อน้ำแร่ร้อนตามธรรมชาติ ห้องแช่เดี่ยว 50 บาท / คน ห้องแช่รวม 20 บาท / คน

    6. บ่อน้ำพุร้อนรักษาวาริน, ระนอง

    แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อในจังหวัดระนอง ที่ใครไปก็ต้องแวะทุกราย ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำแร่ตามธรรมชาติ ที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนเลย และขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวพรรณเป็นพิเศษ ตาน้ำร้อนมีจำนวน 3 บ่อ ได้แก่ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 65 องศา  แต่ละวันจะมีชาวระนองเข้ามาเดินเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เดินชมธรรมชาติ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงแวะแช่ตัวน้ำแร่ร้อน ซึ่งมีทั้งบ่อสาธารณะเปิดให้แช่ฟรี และบ่อจากเอกชน ซึ่งมาในรูปแบบของสปาเป็นส่วนใหญ่
    Cost: ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นบ่อน้ำร้อนเอกชน
    บทความแนะนำ